ประโยชน์ของโยเกิร์ต

คนที่ท้องเสียเป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ใน โยเกิร์ต สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆได้ การกิน โยเกิร์ต สามารถให้อาการท้องเสียทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้อาการบรรเทาลงหรือหยุดถ่าย

ประโยชน์ของโยเกิร์ต

นอกจากนี้ โยเกิร์ต ยังมีไขมันชื่อคอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก สามารถช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ และลดความเสี่ยงโรคเหงือก โยเกิร์ต ไขมันต่ำ 1 ถ้วย เป็นแหล่งรวมของสารอาหารได้ถึง 11 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดเป็นตัวแม่สำหรับร่างกายทั้งนั้น เช่นแคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 12 โปรตีน โพแทสเซียม สังกะสี ทริปโทฟาน และโมลิปเดนัม การบริโภค โยเกิร์ต ที่มีจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยทำให้อายุยืนสุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
โยเกิร์ต ยังสามารถกระตุ้นระบบเผาผลาญโดยไม่ต้องเหนื่อย มีแคลเซียมสูง ช่วยป้องกัน มะเร็งลำไส้ ความดันสูง มะเร็งลำไส้ โรคกระดูกพรุน นำไปใช้ต่อประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีกว่า
น้ำนมจาก โยเกิร์ต ช่วยรักษาอนามัยปาก ช่วยลดกลิ่นปากจำกัดแบคทีเรียชนิดต่างๆ
ภาพประกอบจาก www.photos.com

แต่งหน้าด้วยตัวเองให้เข้ากับเราและสีผิวเรา หน้าขาวหมวย หน้าไทย หน้าแขก สวย ใส คนมอง

แต่งหน้าด้วยตัวเองให้เข้ากับเราและสีผิวเรา หน้าขาวหมวย หน้าไทย หน้าแขก สวย ใส คนมอง

เพราะผู้หญิงแต่ ละคนจะมีบุคลิทิปง่ายๆ ในการ แต่งหน้า ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงสไตล์ของใบหน้าและสีผิว ดังนั้นการแต่งหน้าของผู้หญิงในแต่ละสไตล์จึงแตกต่างกันไปด้วย ฉบับนี้เรามีทิปง่าย ๆ ในการแต่งหน้าสำหรับผู้หญิงแต่ละสไตล์มาฝากให้คุณ ๆ ได้สวยในแบบที่เหมาะกับ ใบหน้า ทีนี้ไม่ว่าคุณเป็นสาวหมวย สาวหน้าคม หรือสาวหน้าตาไทยแท้ ก็สามารถที่จะสร้างสรรค์องค์ประกอบบนใบหน้าให้กลายเป็นจุดเด่นดูสวยเหมาะกับ ความเป็นคุณ ด้วยวิธีที่ไม่ยากมาฝากกันค่ะ

แต่งหน้าสาวขาวหน้าหมวย

         ผู้หญิง สไตล์ผิวขาว หน้าออกแนวไชนีส ดูจิ้มลิ้มน่ารัก ผู้หญิงสไตล์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นสาวไทยเชื้อสายจีนหรือไม่ก็หน้าตาละม้ายไปทาง ญี่ปุ่นหรือเกาหลีที่กำลังอินเทรนด์กันสุด ๆ ตอนนี้ ผู้หญิงสไตล์นี้จะมี จุดเด่นที่ผิวขาว เนียนละเอียดลออ ริมฝีปากบางเป็นสีชมพู รูปหน้ากลมหรือเป็นรูปหัวใจ และส่วนใหญ่จะมีตาชั้นเดียว ซึ่งถือเป็น เสน่ห์อย่างหนึ่งของสาวสไตล์นี้กันเลยทีเดียว การแต่งหน้า ของสาวสไตล์นี้เริ่มกันตั้งแต่
1.รองพื้น โดยการเลือกใช้รองพื้น โทนสีเหลือง อย่าใช้สีขาวหรือชมพูนะคะเพราะจะดูหนาทำให้ใบหน้าดูลอย ๆ เหมือนหลอกตา
2. การเขียนคิ้ว ให้เลือกใช้สีน้ำตาลแทนสีดำ เพราะการใช้สีดำนั้นจะไม่เข้ากับสีผิวขาว ๆ ของคุณ
3. ดวงตา อย่าพยายามสร้างชั้นตาขึ้นมาหลอก ๆ ใช้วิธีสร้างความคมชัดของดวงตาโดยเขียนอายไลเนอร์ให้เป็นเส้นคมบางตามแนว ธรรมชาติทั้งขอบตาบนและล่าง ให้เขียนเส้นบนหนากว่าเส้นล่างเล็กน้อย โดยเขียนให้เห็นเส้นที่เขียนเมื่อลืมตา
4. อายแชโดว์ เลือกสีปานกลาง  เช่นสีบรอนซ์ทาตรงเปลือกตา ให้ทั่ว แล้วเลือกสีอ่อนกว่าแตะเพิ่มความสว่างที่กระดูกโหนกคิ้ว เพราะจะทำให้ดวงตาดูเบิ่งกว้างขึ้น
5. ปัดมาสคาร่า ทับกันสามชั้นเพื่อเพิ่มความสวยหวานสำหรับดวงตา
6. ส่วนแก้มนั้น ควรเติมสีแก้มให้ดูเป็นธรรมชาติด้วยการยิ้มหวาน ๆ หน้ากระจกแล้วเติมสีชมพูบาง ๆ ลงตรงส่วนนูน ที่สุดของหน้าตอนยิ้มแค่นั้นก็พอ
7. ส่วนเรียวปาก คุณสามารถแต่งเติมสีสันตามสีที่คุณชอบได้ตามสบายค่ะ

แต่งหน้าสาวสวยไทยแท้

        สำหรับสาว ๆ ที่มีความสวยแบบไทยแท้นั้น ผู้หญิงสไตล์นี้จะเป็นคนที่มีดวงตาได้รูป ผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ดังนั้นจุดเด่นของสาวสไตล์นี้คือความเซ็กซี่ที่มีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ดังนั้น
   การแต่งหน้า จึงควรเลือกสีสันคมเข้ม แต่ไม่ควรจะเป็นสีสว่างแจ๋นจนเกินไป แต่ก็มีสาว ๆ บางคนมักมีรอยคล้ำใต้ดวงตา ดังนั้น
1. คอนซีลเลอร์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เลือกสีที่มีโทนเหลือง และใช้สีที่มีโทนอ่อนกว่ารองพื้นหนึ่งเบอร์
2. รองพื้น ที่ใช้ต้องเป็นสีโทนเหลือง
3.  แก้มนั้น ให้เลือกสีพลัมหรือสีโรสซึ่งเป็นสีอมแดง อย่าใช้สีส้มเพราะจะทำให้หน้าคุณดูหมองลง
4.  อายแชโดว์ นั้นหลีกเลี่ยงการใช้สีน้ำเงิน ฟ้า และม่วง เพราะจะทำให้ดวงตาดูมืดมนไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้น ควรเลือกสีที่เป็นธรรมชาติแทน ได้แก่ สีน้ำตาล สีน้ำตาลอ่อน สีช็อกโกแลต หรือสีทอง เป็นต้น
5. ริมฝีปาก ควรเลือกสีเข้มแต่มีเนื้อบางใส และควรทาสีชมพู-สีส้มสะท้อนแสงลงบนเรียวปากสาวผิวน้ำผึ้งอย่างคุณ
 

แต่งหน้าสาวคมหน้าแขก

       ส่วนสาวท่านไหนที่มีสไตล์หน้าแขก มีผิวสองสี ดวงตากลมโตดูมีเสน่ห์ลุ่มลึก จมูกโด่งงามได้รูป ผมหนา สาว ๆ สไตล์นี้ควร แต่งหน้า ด้วยการเริ่มตั้งแต่
1. คอนซีลเลอร์ ควรเลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่มีเนื้อครีมโทนสีเหลืองแต่ปนชมพูนิด ๆ ทาทับด้วยแป้งสีเหลือง ตามความเข้มของสีผิวทั้งเปลือกตาบนและใต้ตา
2. รองพื้น ก็ควรใช้สีเหลือง อย่าเลือกสีที่ทำให้ดูขาวขึ้น หรือเลือกสีเข้มจนหน้าคุณดูหมองขึ้นไปอีก
3. ดวงตา นั้นให้เลือกรองพื้น ผิวเปลือกตาด้วยสีโทนอบอุ่น อย่าใช้สีขาว แล้วเขียนเส้นขอบตาให้ชัดเจนเพื่อเสริมความโดดเด่นของดวงตาด้วยสีดำหรือสี เทาดำ แล้วใช้สีน้ำตาลทอง แรเงาบริเวณเบ้าตา
4. ปัดมาสคาร่าสีดำ ส่วนแก้มนั้นให้ใช้โทนสีแดงน้ำตาลเพื่อสร้างความแจ่มใสบนพวงแก้มสำหรับสาวผิวสองสี
5. ริมฝีปาก ควรใช้สีเข้มดูลุ่มลึกเพราะจะช่วยขับให้ผิวสองสีดูสวยสดใส เช่น สีช็อกโกแลต สีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น
เพียงแค่นี้ใบหน้าก็จะดูสวยใส เป็นธรรมชาติตามสไตล์ของคุณ และยังเสริมสร้างเสน่ห์ดึงดูดให้แก่คนรอบข้างและเพศตรงข้ามด้วยละค่ะ 

ที่มาจาก นิตยสาร ขวัญเรือน

อะมิโนแอซิดคืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ Amino acid

ความรู้เรื่องอะมิโนแอซิด / Amino acid

หน้าที่ของกรดอะมิโน       กรดอะมิโนเป็นหน่วยทางเคมี หรือเป็นรูปแบบเพื่อนำไปสร้างโปรตีน โปรตีนไม่สามารถถูกสร้างหรือคงอยู่ได้โดยปราศจากการรวมตัวกันของกรดอะมิโน ฉะนั้นเพื่อให้เข้าใจว่ากรดอะมิโนนั้นสำคัญอย่างไร คุณต้องเข้าใจก่อนว่าโปรตีนนั้นสำคัญอย่างไรต่อการดำรงชีวิต       โปรตีนเป็นส่วนประกอบของทุกโครงสร้างและของทุกสิ่งมีชีวิต  อวัยวะที่เล็กที่สุดจนถึงใหญ่ที่สุดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด จะประกอบด้วยโปรตีนในหลายรูปแบบ โปรตีนจึงเป็นส่วนประกอบทางเคมีที่จำเป็นที่ทำให้เราดำรงชีพอยู่ได้  ในร่างกายมนุษย์ โปรตีนเป็นตัวสร้างกล้ามเนื้อ ,กระดูก ,ผิวหนัง ,เลือด ,เอ็น ,อวัยวะ ,ต่อม ,ผม ,เล็บ ,เอนไซม์ ,ฮอร์โมน ,แอนติบอดี (ภูมิคุ้มกัน) และของเหลวต่างๆในร่างกาย (ยกเว้นน้ำดีและปัสสาวะ)       โปรตีนเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูก เอนไซม์ ฮอร์โมน และยีน ซึ่งนอกจากน้ำแล้ว โปรตีนก็เป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายถึง 20% ของน้ำหนักตัว  ฉะนั้นโปรตีน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อการมีร่างกายแข็งแรง และมีสุขภาพดี เพราะโปรตีนจะทำหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อของร่างกาย ซ่อมแซมและบำรุงรักษา เพื่อยืดอายุเนื้อเยื่อของร่างกาย ส่วนอาหารอื่นๆเพียงทำหน้าที่สนับสนุนเท่านั้น โปรตีนจำเป็นสำหรับการสร้างกระดูก เซลล์เม็ดเลือดแดง และภูมิต้านทานโรค และทำหน้าที่เป็นตัวนำออกซิเจนไปใช้ในร่างกายอีกด้วย       เพื่อให้ได้โปรตีนที่สมบูรณ์ กรดอะมิโนเฉพาะอย่างจะต้องประกอบตัวกันได้ดี ซึ่งกรดอะมิโน สามารถเรียงต่อกันในรูปแบบต่างๆเป็นโปรตีนได้ถึง 50,000 ชนิดที่แตกต่างกัน และ 20,000 ชนิดเป็นเอนไซม์  โปรตีนแต่ละชนิดเกิดจากการประกอบกันของกรดอะมิโนที่แตกต่างกันจำนวนมาก เชื่อมต่อกันเพื่อนำมาใช้ตามความจำเป็นเฉพาะแบบ ซึ่งไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ และกรดอะมิโน มีส่วนประกอบของไนโตรเจนถึง 16% จึงแตกต่างจากคาร์โบไฮเดรต และไขมันในร่างกาย เมื่อรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนเช่นเนื้อสัตว์ ร่างกายต้องย่อยโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโนอิสระ หรืออีกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กรดอะมิโนเดี่ยว (Amino Acid) ก่อนดูดซึมเข้าไปในเซลล์เพื่อสร้างโปรตีนที่ต้องการ       โปรตีนประกอบด้วยกรดอะมิโน 22 ชนิดในอัตราส่วนที่พอเหมาะพอดี คุณภาพของโปรตีนในอาหารขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของกรดอะมิโนที่มีอยู่ในโปรตีนนั้น อัตราส่วนของกรดอะมิโน ที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายมนุษย์ ได้แก่ น้ำนมมารดา (ให้คุณค่าสูงสุดเต็ม 100) ไข่ไก่ทั้งฟอง (94) นมวัว (85)  เนื้อสัตว์ปีกและปลา (อยู่ระหว่าง 86 - 76) กรดอะมิโน 22 ชนิดที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะประกอบกันเป็นโปรตีนอีกหลายร้อยหลายพันชนิดในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด   ในร่างกายมนุษย์สามารถผลิตกรดอะมิโนได้ 80% ตามที่ร่างกายต้องการได้ โดยเมื่อร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ซึ่งเราเรียกกรดอะมิโนที่ร่างกายผลิตเองได้นี้ว่า กรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น (Nonessential Amino Acids) ซึ่งได้แก่ Alanine ,Arginine ,Aspartic Acid ,Asparagine ,Cystine ,Glutamine ,Glycine ,Proline ,Serine and Tyrosine       ส่วนอีก 20% จะต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ซึ่งเรียกว่า อะมิโนที่จำเป็น (Essential Amino Acids) ซึ่งมีด้วยกัน 9 ชนิด ได้แก่ Histidine ,lsoleucine ,Leucine ,Lysine ,Methionine ,Phenylalanine ,Threonine Tryptophan and Valine กรดอะมิโนเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อไก่ ปลา นม เนย และไข่ มีคนไม่น้อยคิดว่าการรับประทานอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ก็จะได้โปรตีนอย่างครบถ้วน ข้อสันนิษฐานนี้ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะโปรตีนในอาหารจะสูญเสียไปเมื่อผ่านขบวนการต่างๆเช่น การใช้ความร้อน การแช่แข็ง การตากแห้ง การเพิ่มสารเคมีต่างๆ อาหารยิ่งผ่านกรรมวิธีการผลิตมาเท่าไรก็ยิ่งสูญเสียโปรตีนมากเท่านั้น       กรดอะมิโนส่วนใหญ่ (รวมทั้งไกลลีน) สามารถปรากฏในรูปแบบที่เป็นเหมือนภาพในกระจกของอีกอันหนึ่ง ที่เรียกว่า D - และ L - series เป็นกรดอะมิโนในรูปแบบธรรมชาติ ที่พบในสิ่งมีชีวิตต่างๆ ยกเว้น Phenylalanine   กระบวนการประกอบของกรดอะมิโนเป็นโปรตีน หรือแยกโปรตีนเป็นกรดอะมิโนเดียวเพื่อถูกนำไปใช้ในร่างกาย เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง เมื่อเราต้องการโปรตีนเอนไซม์มากๆ ร่างกายจะผลิตโปรตีน เอนไซม์  เมื่อเราต้องการสร้างเซลล์ ร่างกายก็จะผลิตโปรตีนเพื่อสร้างเซลล์  ร่างกายจะผลิตโปรตีนต่างๆ ที่ร่างกายต้องการขึ้นมาจากกรดอะมิโนที่จำเป็น และร่างกายจะไม่สามารถผลิตโปรตีนต่างๆออกมาได้ หากขาดกรดอะมิโนที่จำเป็นตัวใดตัวหนึ่งซึ่งนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพมากมาย       หากปราศจากกรดอะมิโน ระบบประสาทที่ทำหน้าที่เสมือนการส่งผ่านสัญญาณส่วนมากไม่สามารถทำหน้าที่ได้ (เป็นสิ่งสำคัญของสมอง เพื่อรับ - ส่งข้อมูล) ถ้าขาดกรดอะมิโน อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดในการส่งข้อมูลข่าวสาร การได้รับโปรตีนปริมาณสูงจะช่วยเพิ่มความว่องไวของสมองได้ชั่วคราว ในส่วนอื่นๆ สำหรับสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ กรดอะมิโนช่วยให้วิตามิน และเกลือแร่ ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เต็มที่ และช่วยให้ถูกดูดซึมไปใช้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ความสำคัญของโปรตีน       1.ให้ความเจริญเติบโต และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กระตุ้นการหลั่ง GROWTH HORMONE (ฮอร์โมนที่ใช้ในการเติบโตของมนุษย์)       2.ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ ทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น กระชับและแข็งแรงขึ้น ลดไขมันที่สะสมในร่างกาย ปรับสมดุลของไนโตรเจน เพื่อเพิ่มพละกำลังให้ดีขึ้น       3.ช่วยสร้างความต้านทานโรค (Anti - Body)       4.เป็นส่วนประกอบสำคัญชองเซลล์เนื้อเยื่อ และสร้างสารเซลล์ต่างๆ ที่เป็นของเหลวในร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมน       5.เป็นแหล่งพลังงานเมื่อร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต และไขมัน การสลายของโปรตีนในร่างกาย โดยปกติ แบ่งออกได้ดังนี้                  โปรตีนในกล้ามเนื้อ มีการสลายตัวภายใน 180 วัน                  โปรตีนในตับสลายตัวทุก 10 วัน                  โปรตีนในเยื่อบุลำไส้มีการสลายตัวทุกวัน                 โปรตีนในฮอร์โมน อินซูลิน มีอายุ  6.5 - 9.0 นาที       การบริโภคโปรตีน/กรดอะมิโน ที่เกิดประโยชน์เต็มที่ต่อร่างกาย ควรเลือกอาหารที่มีกรดอะมิโนอิสระ สามารถดูดซึมได้เร็วไม่ต้องย่อยอีก  โปรตีนในร่างกายไม่ได้อยู่ในสภาวะคงที่ มีการปรับปรุงตลอดเวลา ทั้งเสริมสร้าง/ย่อยสลาย ร่างกายจะสร้างโปรตีนใหม่ๆทดแทนตลอดเวลา จนกว่าร่างกายจะขาดกรดอะมิโน สาเหตุของการขาดโปรตีน       1.ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง อาหารจะย่อยยาก การดูดซึมโปรตีนลดลง       2.ความเครียด ทำให้เกิดการสลายและสูญเสียโปรตีนมากกว่าปกติ       3.เบื่ออาหารหรือไม่มีเวลารับประทานอาหาร ทำให้เสียสมดุลของอาหารที่ให้พลังงาน โปรตีนที่สะสมไว้จะถูกนำมาใช้งานมากกว่าปกติ       4.การตรากตรำทำงานหนัก หรือขาดการพักผ่อน ทำให้ร่างกายสึกหรอมากกว่าปกติ       5.นักกีฬาที่ฝึกซ้อมหนัก ทำให้โปรตีนของเซลล์กล้ามเนื้อถูกทำลายมากขึ้น อาการของคนที่ขาดโปรตีน       อ่อนเพลีย ,เหนื่อยง่าย ,ขาดความกระปรี้กระเปร่า ,สมองไม่แจ่มใส ,คำจำลดน้อยลง ,ร่างกายทรุดโทรม ,น้ำหนักลดลง ,ความต้านทานโรคต่ำ ,แผลหายช้า ,ระบบประสาททำงานผิดปกติ โปรตีนจำเป็นสำหรับใคร?       สำหรับร่างกายมนุษย์ที่เติบโตเต็มที่แล้ว   ความต้องการโปรตีนตามมาตรฐานทั่วไปที่ถือว่าเหมาะสมคือ ต้องการโปรตีนวันละประมาณ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (หมายถึงโปรตีน 1 กรัมนะครับ  ไม่ใช่อะมิโน 1 กรัม เพราะในโปรตีน 1 กรัมนั้น อาจมีอะมิโนแค่ 0.05 กรัม เท่านั้น - webmaster)โดยเฉพาะกลุ่มคนต่อไปนี้ เป็นกลุ่มคนที่ต้องการโปรตีนที่มีคุณภาพสูงอย่างครบถ้วน       1.ผู้ที่คร่ำเคร่งกับงาน หรือนักเรียน นักศึกษา                  ความตึงเครียดทางจิตใจและสมอง ทำให้ร่างกายมีการหลั่งสาร อีฟิเนฟริน (EPINEPHRINE) เพิ่มมากขึ้น มีผลทำให้เกิดการสูญเสียโปรตีนมากขึ้น จึงจำเป็นต้องได้รับโปรตีนสูงกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย และจะทำให้สดชื่น       2.นักกีฬา หรือผู้ที่ชอบออกกำลังกาย                  เนื่องจากกล้ามเนื้อถูกใช้งานอย่างหนัก และมีการใช้พลังงานจำนวนมาก จึงต้องการโปรตีนสูงกว่าปกติ เพื่อให้พลังงาน และเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่เสมอ       3.ผู้สูงอายุ                  ระบบการย่อยอาหาร และระบบทางเดินอาหารเสื่อมสมรรถภาพ ประกอบกับ การสึกหรอของฟัน ทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่ดีพอ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ โปรตีนสำหรับผู้สูงอายุจึงควรเป็นโปรตีน ที่ย่อยง่าย และมีคุณภาพสูง       4.ผู้ที่อยู่ในระหว่างการควบคุมน้ำหนัก                  เนื่องจากการลดอาหาร จึงต้องการโปรตีนสูงเป็นพิเศษ โดยโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเป็นปกติ ผิวพรรณดีขึ้น ไม่ซูบซีด และเนื่องจากโปรตีนไม่ถูกสะสมในร่างกายจึงไม่ทำให้อ้วน       5.ผู้ที่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ                  ปกติตับ จะทำหน้าที่เป็นตัวทำลายแอลกอฮอล์ที่เข้าไปในร่างกาย โปรตีนจะทำให้เซลล์ของตับทำหน้าที่ได้อย่างดี ถ้าขาดโปรตีน ตับย่อมทำงานหนัก เซลล์ของตับก็จะเสื่อมสมรรถภาพไป จนอาจเกิดพังผืดขึ้นในตับ และกลายเป็นตับแข็งในที่สุด       6.สตรีมีครรภ์                  ต้องการโปรตีนสูงกว่าปกติ เพื่อเสริมสร้างร่างกาย และสมองของทารก นอกจากนี้ ยังช่วยในการผลิตน้ำนมของมารดาอีกด้วย สตรีมีครรภ์ที่ขาดโปรตีนจะทำให้เกิดอาการบวม โลหิตเป็นพิษ เกิดโรคแทรกได้ง่าย และทารกที่คลอดออกมาจะไม่แข็งแรง หมายเหตุ ทางเวบมีอะมิโนแอซิดจัดจำหน่ายด้วยนะครับ หากสนใจคลิ๊กไปอ่านได้ครับ คลิ๊กที่นี่

หนทางสู่มัดกล้าม อะมิโนแอซิดคือคำตอบ

- END -

ที่มา http://www.tuvayanon.net

เคล็ดลับแต่งหน้าสวยใส สำหรับวัยแรกสาว

เคล็ดลับแต่งหน้าสวยใส สำหรับวัยแรกสาว

เมื่อเด็กหญิงวัยแรกรุ่นเริ่มโตเป็นสาว หลายๆ คนก็เริ่มรักสวยรักงาม หัดทาครีมแต่งหน้ากันแล้ว และสำหรับเรื่องการ

แต่งหน้า สาวน้อยหลายๆ คนก็ยังเริ่มต้นไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะแต่งประมาณไหน มากน้อยเพียงใดดี สำหรับวัยแรกสาว

ที่ไม่มีปัญหาผิวให้ต้องเป็นกังวล แถมผิวพรรณก็ยังดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่งหน้าแค่เบาๆ ใสๆ ก็น่า

รักจะแย่อยู่แล้วค่ะ  

 

 

 

 

คราวนี้ฟ้าใสคลับดอทคอมขอเอาใจวัยสาวน้อยกันสักหน่อย ด้วยคำแนะนำถึงเรื่องเครื่อง

สำอางสำหรับการแต่งเติมหน้าให้น่ารักจิ้มลิ้มกันเบาๆ สมวัย ตามมาดูกันเลยจ้า

      1. มิเนรัล พาวเดอร์
          แป้งฝุ่นจากแร่ธาตุธรรมชาติเป็นไอเท็มที่เหมาะมากๆ ที่จะทำให้ผิวของสาวน้อยละเอียดลื่น และยังคงความ

ใสเป็นธรรมชาติเอาไว้ได้ แถมไม่อุดตันรูขุมขนอีกด้วยนะจ๊ะ จะเลือกใช้แบบแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งก็ได้ค่ะ

      2. อายแชโดว์ประกายชิมเมอร์

          ประกายชิมเมอร์เล็กๆ วาวๆ วิ้งๆ ที่เปลือกตา ทำให้ดวงตาของสาว ๆ ดูน่ารักสดใส และเริ่มจากการเลือกใช้

สีอ่อนๆ ดูก่อนก็พอ

      3. ลิปกลอส

          ลิปกลอสวาวๆ เพิ่อริมฝีปากดูอิ่มเอิบน่ารัก จะเลือกลิปกลอสแบบใสหรือว่าเจือสีก็ได้ พกง่ายทาง่าย น่ารัก

กุ๊กกิ๊กเหมาะกับวัยใสๆ ที่สุดเลย 

      4. แหนบ

          อ๊ะๆ ไม่ต้องงงว่าจะมีแหนบเอาไว้ทำไมกัน แหนบนี้เอาไว้สำหรับจัดระเบียบขนคิ้วให้กับสาวๆ นั่นเองค่ะ ใช้

ถอนคิ้วส่วนที่ขึ้นออกมาเลยแนวที่สวยงาม แต่งเล็มเสียให้ได้ทรง คราวนี้คิ้วก็สวยได้แบบไม่ต้องเขียนคิ้วเลยล่ะ

      5. อายไลน์เนอร์

          หากอยากได้ลุคตาคมกว่าปกติในสำหรับวันพิเศษๆ เลือกใช้อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลเข้ม จะทำให้ดูเป็น

ธรรมชาติดีกว่าสีดำซึ่งทำให้ตาดุขึ้นมาเล็กน้อย และถ้าอยากได้ตากลมๆ แต่ไม่คมจัด ลองใช้อายไลน์เนอร์แบบ

ดินสอก็จะเป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ

      6. มาสคาร่า

          ปัดมาสคาร่าเบาๆ เพิ่มความงามงอนให้กับขนตา ต่อให้ไม่ทาอายแชโดว์ ไม่เขียนขอบตา แค่ปัดมาสคาร่า

อย่างเดียว ดวงตาก็สวยสดใสพอแล้ว ^^

      7. บลัช
          จะมีอะไรเติมความเปล่งปลั่งให้กับพวงแก้มของสาวน้อยได้ดีเท่าบลัชออน ถ้าชอบให้ปัดง่ายๆ เลือกใช้แบบ

ฝุ่น แต่ถ้าอยากให้ติดทนมากขึ้นและเป็นธรรมชาติด้วย ลองใช้แบบครีมดูนะคะ


           สาววัยใสที่เพิ่งเริ่มต้นทำความรู้จักกับเมคอัพ ลองหัดใช้ไอเท็มพื้นฐานเหล่านี้กันดูก่อนนะคะ อย่าเพิ่งรีบ

แต่งหน้าเยอะๆ จัดๆ เลยนะจ๊ะ วัยใสๆ แบบนี้มีได้ครั้งเดียวเท่านั้น เราก็ต้องโชว์สิ่งดีๆ ที่เรามีออกมาให้น่ารักเป็น

ธรรมชาติมากที่สุดเนอะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.fasaiclub.com

Busting Myths about Breast Enlargement

Today, advanced technology and modern science makes it easier for women to undergo breast enlargement procedures. Now that going under the knife for aesthetic purposes is a widely accepted idea in society, more and more women spend a great sum of money (not to mention time, enduring days, even weeks of painful recovery period) because they feel it’s worth it. Cosmetic surgery is now a multi-billion dollar industry.

However, patients need thorough knowledge and understanding pertaining to this kind of operation prior to making the final decision. The more they know about, it the bigger their chances in making better choices, choices that have a great impact in the end. Therefore, here is some helpful information to correct some of the more common misconceptions about breast enlargement.

• Any surgeon is capable of performing breast augmentation.

Many women think that this is a very simple operation. This is a false notion. Factors such as breast implant size, shape, and even texture are taken into consideration. As with all surgeries, breast augmentation has its own set of risks. These risks are better dealt with by seasoned, highly skilled, and highly trained surgeons with many years of experience doing breast implants- things that cannot be done by just any cosmetic surgeon. They also know that no two patients are identical so the clinical approaches are highly individualized as well.

• A reliable way of measuring a woman’s breast is by using cup size.

Different bras fit differently. A Wacoal bra is not the same as a Victoria’s secret bra in much the same ways as a 34C is different from a 36C. So using cup sizes for breast size descriptions is highly unreliable. Measurements and thorough examination of your tissues are needed as basis for your true size.

• Women with bigger breasts are more attractive.

That is a matter of personal opinion and preference. However, when you are talking about breast enlargement, bigger is not necessarily better. Of course getting what you paid for is of great importance just as listening to the advice of your surgeon is. Remember that bigger breast implants sag more in the long run requiring a repeat surgery in the years to come. A woman’s body type, tissues, and age play a big role with the long-term results. A good surgeon assists the patients in reviewing all possible options.

• Breast implants last forever.

The fact is these don’t. These don’t even last a lifetime. As with all medical devices, even the ones made with the most advanced technology with state-of-the-art implant materials eventually need changing. Some good breast implants last for many years, but not a lifetime. Possible breast implant exchange is one of your future alternatives.

• Saline implants are safer than silicone gel implants.

They are both safe. Nevertheless, silicone implants are softer and suppler, feeling more like natural tissues of a woman’s breast. Saline implant ruptures are also more common than silicone ruptures are but is of no serious concern since salt in saline implants are perfectly safe for the woman’s body. On the other hand, immediate removal of silicone implants is not warranted in the event of rare implant leakage. However, annual MRI is advisable every few years for “silent rupture” detection.

• Scar visibility is of serious concern.

This is not the case anymore. Today post-op scar management is excellent. Because of this the location of the incision no longer matter, leaving the scars unnoticeable. In the best facilities that are performing cosmetic surgeries, patients are taught the proper way to care for their scars.

Thorough physical and psychological assessments are pre requisites for a successful breast enlargement operation. This ensures that the patient is in a healthy physical and mental state when undergoing the procedure. This way the patients get their moneys’ worth.

Considering Your Breast Enlargement Options

Cost is a major concern when considering your breast enlargement options. However, that alone is not a guarantee for a successful cosmetic surgery. Mental and psychological preparedness is also of utmost importance. One way of doing this is having thorough knowledge on the procedure itself. Knowing what happens during the procedure and what to expect post op lessens the patient’s anxiety greatly.
For women contemplating on larger breasts, bilateral mammoplasty is done. Breast tissues or pectoralis muscles underneath are inserted with inflatable implants. Sterile saline solutions are filled in self-sealing valves.
Here are three possible ways for breast implant insertion:
• The periareolar incision. An incision is made outside the outer half of the areola. This is the most difficult incision but widely preferred because the scar is hardly noticed.
• The trans axilliary incision. The incision is in the axilla (or armpit) so breast scars are not seen.
• The inframammary incision. This is the most common incision among the three. It is performed transversely on the side of the submammary fold. There is a pocket between the pectoralis muscle and the mammary gland where the insertion of the implant takes place.
• The supra umbilical endoscopic approach. This technique also negates the need for breast incisions because only one incision is made near the umbilicus (or navel). Then the fascia and the subcutaneous tissue are inserted with an endoscope all the way to your breasts. Now you have good visuals on the deflated expander placement between your pectoralis muscles and breast tissues. A fill tube is used so the sterile saline solution goes through it. This creates the pockets for the implants. Finally, a sterile saline solution is used to inflate the deflated implant as the fill tube is removed.
Nevertheless, where do these implants come from?
There is a licensed manufacturer supplying these. For non-sterile breast implants delivered, instructions for sterilization are included in the package. The surgeon selects the appropriate plant implant size. The determination is made by the use of silastic sizers. The patients’ chart contains the identification card of the implant, and individual implants’ catalogs as well as the lot numbers are recorded.
So what happens after the procedure?
There are routine screening mammography programs the woman having breast implants undergo. Sometimes this is done together with ultrasonography so the implant’s integrity is confirmed. A risk of implant rupture due to the compression is of no concern while undergoing mammography so long as guidelines from the American College of Radiology standards are strictly followed.
Are there risks involved in this procedure?
Yes. As with all kinds of operations, these breast enlargement procedures have their own set of risks and possible complications. Among these are capsular contraction (this is a breast augmentation complication wherein scar tissues surrounding the implants becomes firm and tightens), hematoma (or painful bruising), skin necrosis (or death of skin tissue) and infection. That is why thorough assessment, consultation, and counseling with your doctor are of utmost importance.
Are scars dealt with effectively?
These days, yes. However, scar formation is just but normal because that is the body’s way of healing wounds. Therefore, when incisions or injuries occur, this automatically takes place. Seasoned cosmetic surgeons have mastered excising scars, which are visually displeasing. Now realignment of wound edges, scar revisions and cosmetic improvements are performed post op and a less conspicuous appearance are achieved.
What about unsightly keloid formation?
This one is more difficult but still very doable. Keloid formation happens when collagen of healing wounds abnormally develops. This requires either possible excision or skin grafting. Either way keloids are visibly lessened if not totally eradicated.
Today, women are fortunate for having better breast enlargement options, so might as well take time in knowing what’s best.

How to Pick the Best Implants for Breast Enlargement

Are you thinking about getting implants for breast enlargement? Don’t get too excited because haste truly makes waste. There are many factors to consider aside from size, which is the most common concern. Several types are out in the market today; among these are saline or silicone implants, smooth or textured, round breast implants, and anatomical breast implants. There's also what is called implant "profile,” which could be high, moderate or low profile. Knowing all these options helps in choosing the best one suited for you.

The only way to do this right is through a one on one consultation with your cosmetic surgeon. Not just any surgeon but one who has the training and years of experience having successfully mastered the art and science of performing an operation in this highly specialized field. Here some of the common (and not so common) questions to ask your cosmetic surgeon not only for gaining informed choices but also for your overall peace of mind. 

Are silicone implants safe?

Over six years ago, the FDA finally approved the use and manufacturing of silicone gel implants after successfully proving that they are safe and effective. However, continued monitoring by the FDA is required of the manufacturers through tracking and following over forty thousand women within ten years post breast implant insertion. By doing this, any adverse effects or incidents are reported and documented for further studies.

Are saline implants better than silicone?

Apparently, it is not. They are the most frequently used breast implants in the United States but they do not have the approval of the FDA yet. The outer core or shell is made up of a sturdy shell of silicone elastomer. During surgery, it is filled with the sterile saline solution. In rare instances that these implants rupture, the patients are worry free because it is perfectly safe. The body, much like drinking a glass of water, absorbs the saline. However, the saline solution should have a concentration of 0.15M and 7.2-7.4 pH level

How are round implants different from anatomical breast implants?

First up, anatomical breast implants are more expensive than round implants because of the more "natural look" they project which is a main consideration when implants for breast enlargement are picked. However, this is not true. A lot has to do with a woman's anatomy, tissue mass and the cosmetic surgeon performing the surgery. Some cosmetic surgeons, after years of experience have mastered the incision techniques, and the best way to create the pockets for the implants.

Are there breast implant warranties offered?

Yes. Nevertheless, different companies vary in terms, conditions, and warranties. However, generally known risks such as rupture and deflation are made known to the patient prior surgery. This is discussed personally and thorough by the surgeon performing the operation. Possible complications and other adverse reactions are also laid out. Unfortunately these warranties are only limited and has no lifetime coverage.

Does age matter when having breast enlargement procedures?

No. Many women ranging from 50, 60 and 70 years old have benefited from having breast augmentation. Sagging breasts and loss of breast tissues are some of the clinical problems resolved post operation. Of course being physically healthy is essential prior to any surgery so consult with your doctor for a thorough consultation that is right for your health needs.

Different women have different reasons for undergoing breast enlargement procedures. However, having realistic goals are more helpful rather than fantasizing on a certain look or
figure for example, or achieving your 20 year old image when you are already 50 years old. Setting clear, realistic goals is the key to having satisfying results after acquisition of implants for breast enlargements are made.

How Breast Enlargement Massage Increases Breast Size the Natural Way

Men and women alike love big boobs. Well, maybe not everyone, but, boob fanatics are undeniably large in number and for a good reason. Big, well rounded, even toned, firm breasts spell attractiveness and oozing sex appeal. Men love the sight and women love the attention. This is why many women ignore the staggering costs, risks and possible complications brought about by breast augmentation surgeries. Others however resort to less expensive but highly effective alternatives. One of these is the breast enlargement massage. For just half an hour each day, your bust size will increase one size larger in just four weeks.

Breast enlargement massage has been proven to increase growth and improve blood circulation. Phytoestrogens are natural compounds inside the body that once stimulated and goes through the blood stream are picked up by receptors in your breast and are then used in order to grow. How do you do this?

Prior to the procedure, have a warm relaxing bath. Then, find a quiet place where you can lie down and be comfortable. Make sure there are no distractions so you can do this properly. When you are warm and comfortable, generate some heat by quickly rubbing your hands together. When warm enough, place them on top of your breasts. Massage inwards then do circular strokes around your breasts; do this in a clockwise then counter clockwise motion.
Consistently do 200 circular rubs during the day and another 200 circular rubs before you go to bed in the evening. Make sure it’s not too fast or too slow. Occasionally rub your hands together to maintain the heat needed for this breast enlargement massage. There are no hard and fast rules as to the number of rubs to perform. It’s a matter of comfort and preference. Regular breast enlargement massage guarantees fuller, tauter, firmer breasts in just four weeks.

To make your massage more relaxing, try making your own massage oil. This mixture is known to successfully increase breast size with continuous use. Mix 16 drops of oil from your Ylang Ylang and 9 drops from your geranium in your almond oil base, which is around 50-60 ml. Do this prior to massaging your breasts for full effect.

Several reported benefits have sprung from doing breast enlargement massage. Some say cramps, headaches, and other painful symptoms during their menstrual cycle decreased dramatically; reduction of PMS discomfort is also claimed. Do a self-breast exam while you’re at it.

Since your timing and position is ideal, try doing a self-breast exam as well. You don’t have to do this as often as your breast enlargement massage, but at least do this once a month.
Apply light pressure to your breast using the pads of your fingers. What you’re doing is checking the area underneath your breast’s skin surface. Then apply medium pressure to your breast. You should be midway inside. Finally, apply a deep pressure, reaching the deepest part of your breast. These three pressures are used in order to examine your breasts.

When you do your breast exam, do it one at a time. You need to examine both of them each time. Do not forget to do this every month. Eventually the architecture of your breasts will become familiar and telling your doctor about their changes becomes a breeze.

Breast enlargement massage and breast enlargement self-exam are two of the important things women ought to know. While one is for aesthetic purposes, the latter is a lifesaver. Early detection saves you a lot of trouble in the future. Knowing how to feel for any lumps and masses in your breast area is a great help to your doctor during medical examinations.

Things to Remember during a Cosmetic Breast Enlargement Procedure

A lot of women now opt for cosmetic breast enlargement to feel more attractive and boost their self confidence. What they don't know, however, is the physical, mental and emotional preparation required prior to surgery and the adjustments needed during the aftermath. Knowing what to expect from beginning to end makes it so much easier for the patient to handle, and the recuperation period faster. So here's a run-down of the possible scenario.

Before the Operation

You may be asked to undergo mammograms, x-rays and routine breast exam. This will allow the surgeon to determine the shape and size of your breasts and their inframmamary creases. Don’t be surprised as you may be pinched or tugged gently on your skin. This is done to give a tentative measurement of the distance between your breasts. Knowing if you are loose, lax, and other variables helps the surgeon make the proper recommendation regarding the best breast implants suited to your body type.

During the Consultation

Come in early as this lessens the anxiety compared when you are hurried and late for the appointment. Ask all the questions you want, do not feel embarrassed or worried if some of them sound silly or stupid. After all it is your body, you have every right to know what it will undergo, and this will help greatly in the adjustment period.

It's better if you have a ready set of questions prepared at home so there is no chance to miss out on anything you want raised or discussed simply because you are too nervous to think. It is also great to have photographs with you so your doctor has a clear visual representation of how you want your breasts to look like. Have reasonable, realistic expectations when discussing your goals with your doctor as well as your motives for wanting this done. Do not forget to ask about the risk and possible complications such as implant deflation or rupture and what to do when this happens.

Finally, ask if it is all right to speak with your surgeon’s former patients for they are the best people to attest to the skill and satisfying results you are hoping to find. All good and professional cosmetic surgeons do not mind, in fact, they welcome this opportunity to ease their patients' mind and prove their proven medical capability.

Cosmetic Breast Enlargement

Costs and Warranty

The cost of the operation relies heavily on several factors. Some of these are the type of breast operation, breast implant type and profile, the cosmetic surgeon performing the procedure. Highly trained surgeons with years of experience successfully performing cosmetic breast enlargement surgeries naturally have higher rates. Finally, where is the location of the operation – a hospital or an office facility? Warranties are offered for a limited time since no lifetime warranties are offered yet. Read and understand carefully all written documents for your protection and future concerns.

On the Day of the Surgery

Make sure you are accompanied by someone to be with you for a day or two starting on the day of your operation. Take all your pre-op meds and refrain from taking aspirin, warfarin, and other drugs known to be blood thinners. Wear loose fitting clothing and remove all jewellery and nail polish. Make sure your bed, sofa and chairs are properly made up with clean sheets and fluffed pillows so you are comfortably settled when you get home. Fruits, vegetables, yogurt, crackers, oats, Jell-O and other nutritious, but easy and ready to eat food are stacked in your fridge in case your appetite is still down within a couple of days. Keep all your emergency numbers handy, especially that of your surgeon.

Finally, relax. If good preparation and patient education is properly done prior to cosmetic breast enlargement, this is easily achieved.

Are Costs of Breast Enlargement Procedures Truly Staggering?

That is difficult to answer because the question itself is very broad. These days there are a lot of methods and options made available to women pondering the idea of going under the knife. However, the costs of breast enlargement procedures depend on certain factors such as demographics.

Who is your surgeon? What is his level of experience in performing successful breast augmentation procedures? Where is the operation executed? Is it done in a hospital or office setting? What is your surgery of choice? What kind of anesthesia will be used based on your preference? The costs of breast implants vary as well. Anywhere between $5,000 and $15,000 is billed for breast augmentation. Then you have a thousand or two solely for the implants. Postoperative recovery and anesthesia on the other hand is a different matter all together.

Factors that Influence Costs of Breast Enlargement

• Who’s your doctor? Choosing your doctor is another vital issue. If you are willing to spend on your breasts, might as well choose the best. The best cosmetic surgeons don’t come in cheap. You are paying for their skills, training, and specialty in this highly specific field. They also ensure your safety, your comfortable and speedy recovery, and of course, the amazing results.

• So where is the best place for doc shopping? Thank goodness for the almighty web. Checking out their clinics’ or hospitals’ site gives you vast amounts of information that are very helpful in making smart choices and informed decisions. Breast enlargement procedures are risky, but these are better managed by board certified doctors in this area. Your best bets are the ones nationally recognized and sanctioned by the American Board of Medical Specialties.

• How are you to finance the actual costs of breast enlargement? Fortunately, healthcare finance is available. One time, lump some payments are no longer expected of patients. Today costs are broken down and patients pay in affordable monthly installments over a span of say, 4-5 years, depending on the plan.

   
Read on for a better understanding of financing healthcare.

Contrary to what some people are thinking, the concept of healthcare financing is not new. In fact, it dates back 1798 when a hospital for the marine service is established. Here merchant ship owners are required a 20 cents monthly contribution for the sickness fund intended for the well being of the seamen under their employment.

The basic principle is individuals collectively pitching in or pulling their resources together so assistance to the sick and dying is given. Eventually shared responsibility by the government in supporting health care is realized as a good idea. This way, public physicians that were tax-supported paved the way for better health care services.

Flash forward three centuries later. Priorities evolved (aesthetics are now among the top priorities), but the principle remains unchanged: accessible and affordable healthcare for everyone. So going back to the “boob job” topic, there is no fixed rate for a breast enlargement operation because every patient is different. Their cases vary.
So, each one is treated depending on the needs and preferences of the patient. Clinics now conduct free consultation for their patients’ awareness regarding all the needed requirements. Everything is discussed from the pricing to the corresponding actual surgery, overnight accommodation, and appointments at their facility for after care programs. Many medical facilities guarantee this without hidden costs, whatsoever.

So, do not let costs of breast enlargement stop you from gaining the added confidence and self-esteem that every woman truly deserves. Weigh your options, talk to the right people, seek, and heed sound advice. After all, life is short. Make the most out of it.

Breast Enlargement Pills as a Woman's Alternative to Breast Augmentation Surgery

Many women wish to have bigger breasts. Only this time, the age group has a wider scope. Girls 18 years old, even younger, are having boob jobs done even if this means asking or begging for their parents' consent. On the other hand, older women, 50, 60, 70 year olds do not find age as an issue. If it makes them happy, they definitely go for it. The biggest hindrance, though, is all too familiar: cost. Therefore, they go look for an alternative. Then they come across breast enlargement pills.

A breast enlargement surgery can range from $5000-$15,000 depending on the type of procedure you are going to undergo. Added to that is the type of breast implants you wish to have. The more natural looking they are, the more expensive. Lastly, there’s the eye- popping rates of your cosmetic surgeon; highly trained surgeons with years of experience performing successful breast implant operations demand higher rates.

These skyrocket prices of cosmetic breast surgeries lure women to other less expensive yet equally effective measures. Sales of breast enlargement pills are soaring thanks to the magic of internet marketing and social media. Videos and testimonials of successful users make it more tempting to try it. Herbal pills are selling despite some of them lacking the FDA approval and have no proven therapeutic effects, relying on the claim that since it is all natural, it is safe and has no adverse side effects. This is a common and very dangerous misconception. Just because it is termed herbal, it does not necessarily follow that it is neither safe nor effective. In addition, since the FDA does not accredit it, it did not go through the necessary tests and studies the way the approved medicines have, all the more putting the public at risk.

Hence, here are the latest product reviews on the hottest breast enlargement pills on the market today to provide women an educated choice.

Perfect Curves

It works by utilizing internal and external methods in increasing bust size. It has the amazing effects or hormone regulating capsules and topical gels combined. A female's hormonal levels are regulated by the capsule to increase breast growth while the gel localizes its effects with the production of compounds further enhancing size and breast firmness. Some users claim to have 1.5-2.5 increase in breast size, from a double A cup to a C. The results appear to be permanent because the size did not decrease a year after the experiment.

FemShape

They do not sell capsules alone. It is a system composed of phytoestrogen gels plus capsules. The manufacturers always promote these in pairs. Aside from enlarging, toning and firming the breasts it also has some bonus positive side effects such as easing painful symptoms of premenstrual syndromes, strengthening nails and stimulating hair growth.

Total Curve

The fifty-dollar month's supply of this breast enlargement pills and cream makes it very enticing to interested buyers. Clinical records from it’s manufacturers show that it has no harmful side effects. It also contains phytoestrogen, a compound believed to have the ability to relieve headaches, menstrual cramps and other painful symptoms during a woman’s’ monthly period.

Conclusion
There is nothing wrong with wanting to look and feel good by acquiring a sexier, bustier you. So long as your excitement does not get in the way of choosing the best, the safest and most cost effective products and procedures offered in the market today. Arm yourself with the right information prior to purchasing or undergoing any procedure. Nothing beats an educated buyer. There is no use of having bigger, firmer, well-toned breasts if infection, adverse side effects and other possible complications are acquired in the process.

Things to Remember When Choosing Breast Enlargement Creams

Things to Remember When Choosing Breast Enlargement Creams

Some women are perfectly happy with small to medium-sized breasts. Nevertheless, others can’t help but feel a little insecure especially when their beloved spouses are obviously mesmerized at the sight of women who are blessed with bigger boobs. Others opt to undergo breast augmentation procedures, not minding the high cost or risks it entails. Fortunately today, other less and even non-invasive procedures are available in the market for those not willing to go to these lengths to achieve the results they desire. One of these is using breast enlargement creams. They are safer, more convenient, and just as effective. Here are some of the most frequently asked questions about breast enlargement creams.

Breast enhancement creams work all by themselves, right?

Some breast creams cannot do the trick all by themselves. It works best when taken together with breast enlargement pills. Overall, the desired effects are similar. Breast tissues are produced through stimulation of the mammary glands’ estrogen receptor sites. These are safe because they are plant-based. It has a more direct approach compared to a pill because it does not have to go through the “first pass effect” also known as “pre systemic metabolism” oral pills do when digested, making it longer to take effect.

Fortunately, “stand alone” breast creams are now available for those wanting to negate the need of having both breast enlargement cream and pills. It simply requires regular application and visibly enhanced breasts are achieved.

What are other known benefits of breast enhancement creams?

• The first one is the most obvious-breast enlargement by adding more breast tissues.

• These creams work directly on your cells giving your breasts a firm, well-toned look.

• Since it acts on a cellular level, it helps rejuvenate your breast tissues.

• Increases the natural firmness of your breasts.

• Soft on skin and has a clean, non-greasy feel post application.

Are there unwanted side effects?

Yes. Despite claims of creams being composed of all natural herbal ingredients, it would be better if you know exactly what these ingredients are so you are aware of all possible side effects.

Isoflavones – Almost all breast enhancement creams have this ingredient. Clinical studies show that cancerous cells are reduced when used in larger treatments. It has no known side effects other than inducing growth of additional breast mass.

Wild Yam – This hormone increases breast size naturally. It stimulates the human endocrine systems’ progesterone production.

Saw Palmetto – Helps make breast feel supple and even toned. There are no known side effects on women. It is very safe for topical use.

Centella Asiatica – Widely known for its anti-bacterial and anti-inflammatory properties. It also increases collagen production in breast skin tissues. It makes your skin tighter and your breasts firmer.

Are application methods important?

Definitely. Manufacturers recommend that the patient read first and understand the label before actual application. On the other hand, some manufacturers strictly advice against non-application on the nipple area. Positive results are expected only when you heed this advice. Never mix two creams at the same time because you do not know the drug interactions involved. This is dangerous.

Is breast massage necessary while cream is being used?

Consult your doctors; they know the best person capable of teaching you this. However, the most common method is stroking the surrounding area of your breast while putting your middle, ring, and index fingers on your nipple. Rotate your breast clockwise several times. Then, do it counter-clockwise. Do this for a couple of minutes. Knead your breasts gently afterwards. Finally, compress your breasts inwardly. The idea is to let the cream seep through the skin for effective absorption.
   
Whether you use breast enlargement creams along with breast enlargement pills, the key is to read and understand the drug literature found inside. It tells you all the indications, contra indications, side effects, rare adverse effects and what to do in the event it happens. Proper application is also found inside. The more aware you are, the better your chances for having successful desired results.

Things to Bear In Mind Before and After Breast Enlargement Surgery

Having to go through an operation, any operation for that matter scares the wits out of anybody. The mere thought of it robs you the ability to eat, sleep, and function normally. It is simply downright terrifying. However, knowing certain facts about the procedure, the do’s and don’ts helps a lot in overcoming tremendous fear and anxiety.

Therefore, here are some helpful tips and reminders that make breast enlargement surgery manageable.

• Arrange for someone to accompany you for a day or two post-op. Are you thinking of managing things all by yourself? Forget it because that is very dangerous.

• Anesthesia is known for causing nausea after surgery. Drinking lots of water prior to the procedure prevents this.

• Most pain medications are gastric irritants. If possible, have a full meal before taking them. The point is having something substantial to line your stomach to avoid stomach upset.

• Is your doctor aware of all the medications (whether herbal or otherwise) you are currently taking? He had better be, along with your thorough medical and family health history.

• Do not take aspirin or anything containing this ingredient. This is a blood thinner and this is dangerous during and after your operation.

• Consult your doctor about taking in Bromelain for reduction of extreme bruising and swelling. Maximum intake is around seven to ten days, tops.

• Alcoholic beverages are avoided the day before the procedure.

• Take off all jewelry and nail polish prior to surgery.

• Ask your doctor if he has issues operating on you during your period. Some surgeons are very particular with this. Others do not care. Ask to be sure.

• No matter how difficult it is, stop smoking prior to surgery. This greatly reduces blood oxygen levels, leading to necrosis (death of your tissues).

• Strengthen your abdominal muscles by exercising regularly. The stronger you are, the faster your recovery.

• Keep easy to wear clothes handy. Button up shirts are the best and the most comfortable.

• Keep your surgeon’s contact details where they are easily seen in case of an emergency.

• Accomplish all household chores prior to surgery so there is a worry free recovery.

• Keep your bed sheets and pillowcases clean.

• There should be no garbage inside the house on the day of the breast enlargement surgery.

• Ensure your groceries can last for two to three weeks.

• Losing your appetite post op is a possibility, so keep crackers, soups, Jell-o, anything nutritious to nibble inside your fridge.

• Dealing with sore backs is another thing. Keep heating pads handy. They are not supposed to be placed in your breasts because they are still numb, risking them to be badly burned.

• Prescriptions of medicines prior to surgery are filled and bought.

• Ask if you need to take some valium on the day of the surgery for a relaxed state of mind.

• Always keep your insurance/pharmacy card in your bag especially on the day of the surgery.

• Check that no bills are left unpaid before the operation.

• Make magazines, books and other good reads available. Do not watch comedy shows leaving you in stitches if you do not want your fresh incision sites to open-literally.

• Everything is reiterated to your surgeon on the day of your operation, this ensures achievement of your goals after the procedure.

• Gas up. Nothing is more horrifying than running out of gas on your way to the hospital on the day of your surgery.

• Keep your mobile and cordless phone charged and remote control batteries new.

• Keep yourself comfortable on your way home; bring your favorite pillow with you.

• Relax. Practice deep breathing exercises. When all else fail- pray. It always works.

Make life easier for you, your loved ones, and your healthcare provider by being a responsible and well-informed patient. Making informed choices is the first step towards a successful breast enlargement surgery.

Two Effective Post-Breast Enlargement Exercise Techniques to Try

Two Effective Post-Breast Enlargement Exercise Techniques to Try

So now you've taken the plunge. You went under the knife for a boob job. You feel amazing afterwards. Great! Now it's time to try these post breast enlargement exercise techniques. However, what is the purpose of these exercises? This set of exercises can help you to regain a better range of motion and faster healing. Of course, it is best to consult your doctor prior to doing this. That is the only time to go about this. This a challenge because you are less likely to feel like exercising post-op.

These are also helpful in stopping your shoulder and your scars from getting too stiff and too tight. Therefore, here are two boob workouts to try from “Bossom Buddies”:

Clasp, Reach, and Spread

1. Sit up straight in a chair, preferably facing a mirror. Start the exercise with your hands clasped in your lap. The goal is to move your hands all the way to the back of your neck.

2. Slowly raise your hands toward your forehead, keeping your elbows as close together as possible. If you feel incisional pulling or discomfort, stop and rest your hands where they are (your chin, nose, and forehead, top of your head) and hold the position for one minute. You may do deep breathing until the pulling subsides. If the pain does not subside, slowly return to the start position after one minute. If it does subside, continue the exercise until you feel the pulling again. Hold for one minute. Then return slowly to the start position. It may take several sessions for you to complete all the positions of this exercise. Take your time, and remember that the goal of stretching is to relax the scar tissue.

3. As you are able to go further with the exercise, slide your hands over your head, keeping your elbows close to your ears. Remember to keep your head up! Check your position to make sure you can see your chin in the mirror. Slide your hands down until you reach the back of your neck. When your hands reached the base of your neck, open your elbows wide out to the side. Hold this position for one minute. Slowly reverse direction and return to the start position.

Side Wall Stretch

Once you have reached your full range of motion with the above exercises, this exercise will help you to stretch a little more:

1. Stand perpendicular (sideways) to the wall with the arm on the side of surgery facing the wall and your feet about one foot away from the wall. Reach your arm up to the wall and put the heel of your hand on the wall. Do not rest your weight on your fingers.

2. Lean on the wall so that the heel of your hand slides up the wall until you feels incisional pulling. Hold this position for one minute. Return to the start position. Do this with the other arm as well.

3. Repeat the exercise until you no longer feel incisional pulling while your arm is at the full height of the position.

A word of caution though; remember, do not force yourself if it's too difficult on your part. Do gentle exercises slowly and steadily over the next few weeks until your momentum is built. Do light activities first and do not put too much pressure by lifting heavy objects or overstretching/pulling your arm. Regularly communicate with your doctor or nurse for proper guidance on the dos and don’ts after your operation. These post breast enlargement exercise techniques are helpful only if your healthcare providers are well aware and approve of it.

4 Things Cause Sciatica... What's Causing Your Pain?

If you’re reading this article, it’s a good bet that you have a radiating pain running down the back of your leg that just won’t go away. If what I’m about to tell you sounds familiar, don’t worry, help is on the way.

I guarantee you that what you are about to read will likely be far different than what you have read or heard anywhere else!

First, let me tell you why today’s traditional treatment methods for sciatic nerve pain just flat out miss the boat. The medical community is so conditioned and focused on treating only the symptoms and trying to get in as many patients a day as possible, that many people are misdiagnosed and/or mistreated.

In order to get rid of your sciatica you must first know what is causing your pain... there are 4 conditions that can cause sciatica.

The pain is simply caused by pressure being placed on the sciatic nerve and there are primarily four things that can create this... you may have one or more of the following:

Condition #1 - Piriformis Syndrome

The most common cause of sciatic pain and is created when pressure is placed on the sciatic nerve by the piriformis muscle. Muscle imbalances pull the hip joints and pelvis out of place and this changes the positioning of the piriformis muscle, which then places pressure on the sciatic nerve. Whatever the case, muscle imbalances will cause major problems and are the underlying cause of sciatica due to piriformis syndrome.

Condition #2 - Herniated Discs

Pressure caused by a herniated or bulging disc. A herniation is when a disc protrudes out from between the vertebrae and this can either be caused by an event like a car accident, or, by months or years of uneven pressure due to muscle imbalances. This can sometimes cause sciatic pain, but it is also important to note that many people with herniated discs don’t even experience pain or symptoms, and many don’t know they have the condition.

Condition #3 - Spinal Stenosis

Pressure caused by spinal stenosis, which is a decrease in the space between the vertebrae. This is primarily caused by uneven pressure and compression due to muscle imbalances.

Condition #4 - Isthmic Spondylolisthesis

Pressure caused by Isthmic spondylolisthesis which is simply when a vertebrae slips or moves... this can sometimes pinch the sciatic nerve but often times people who have this condition don’t have any sciatic pain, symptoms, or even know they have it!

As you can see, there is a trend here...

In Nearly Every Case Of Sciatica, Muscle Imbalances Are The Primary Cause Of The Pressure Being Placed On The Sciatic Nerve...

If you are not sure which one of the four is causing your sciatica, I recommend you start with the basics. Most cases of sciatic pain are caused by muscle imbalances so if you begin to work on correcting any muscle imbalances you have, you should start to see improvement right away.... and likely eliminate your sciatic pain in a few weeks or less!

There are several self assessments you can perform to help identify which specific muscle imbalances you have and these are covered in our Lose the Back Pain System, along with step-by-step instructions on what to do to eliminate your imbalances and sciatic nerve pain...

Sciatica comes about either due to a traumatic event, muscle imbalances, or a combination of both...

The event scenario is most likely the catalyst for sudden onset of sciatic pain. So what happens… when there is undue stress on the Piriformis muscle that stress causes it to go into spasm and then you have pain due to the Piriformis muscle putting pressure on the sciatic nerve.

In most cases, people go to physical therapy or minimize their physical activity to break the pain – spasm cycle and in most cases your symptoms subside. However…the event will also set you up for a lifetime of sciatic pain if the Piriformis muscle does not recover 100% in both strength and flexibility.
When you have an injury to a muscle, both strength and flexibility are compromised, and if your recovery ends before strength and flexibility return, you will never be 100% and will likely struggle with the problem forever.

The other way sciatic pain creeps into your life is due to your lifestyle and habits, and that is what we like to call the process. The process can be described as a prolonged onset of symptoms based on your everyday activities...

However, from a technical stand point the process really describes the development of the muscle imbalance in your hip. The Piriformis muscle is responsible for external rotation (moving your leg so your feet point outward). So over time that muscle gets tight from the positions you put yourself in and weakens from lack of use.

Let me give you some examples of what I mean:

1. If you sit on the edge of your chair with you legs separated and your feet pointing outward you are keeping your Piriformis muscle in a shortened position and that’s how it gets tight and with extended sitting in that position, it gets weak form lack of use. Hence the imbalance.

2. Another example is runners and bikers who actually work very hard tend to get sciatica because they fail to keep a strength vs. stretch balance in their workouts. Hence the imbalance creates a greater pull toward external rotation and the result is a tight Piriformis and an irritated sciatic nerve creating pain.

These are just two examples of how muscle imbalances can affect the Piriformis muscle and cause sciatic pain. You may not be a runner or cyclist but I’ll bet you have muscle imbalances that are causing your sciatic pain!

So how do you get rid of your sciatic pain?

Will learning one new stretch be enough? It very well may be. However depending on the severity of your condition you may need to change your activities of daily living to include new stretches, new exercises that include the use of the hip rotators like roller-blading, basketball, tennis, etc, and even better, specific corrective exercise specific to your situation... like those covered in our Lose the Back Pain System.

As always, learn as much as you can about your condition, so that you can ask the tough questions to your healthcare providers and get the best care possible.


About the author:
Article Courtesy of The Healthy Back Institute. If you suffer from Sciatica you have got to check out their sciatica self treatment program http://www.losethebackpain.com By Jesse Cannone

เวลานั่งเครื่องบิน ตรงไหน ปลอดภัยที่สุด

 เวลานั่งเครื่องบิน ตรงไหน ปลอดภัยที่สุด

 

นิตยสารป็อปปูลาร์ มาแคนนิกส์ (The Popular Mechanics) เคยวิจัยโดยการวิเคราะห์ทางสถิติไว้ว่า ที่นั่งบนเครื่องบิน...นั่งด้านท้ายปลอดภัยกว่า
     
      ทั้งนี้ จากการศึกษาสถิติจากอุบัติเหตุต่างๆ ของสารพัดสายการบินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่า ยิ่งอยู่ห่างจากหัวเครื่องบินเท่าใดก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น โดยสถิติผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุบนเครื่องบินส่วนใหญ่ 40% มีที่นั่งบริเวณหางเครื่องบิน
     
      นิตยสารดังกล่าวได้นำข้อมูลอุบัติเหตุของเครื่องบินในสหรัฐฯ จำนวน 20 ครั้ง จากสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งสหรัฐฯ (NTSB) ตั้งแต่ปี 2514 จนถึง ส.ค. 2550 อย่างละเอียด ที่มีทั้งผู้รอดชีวิตและเสียชีวิต พร้อมทั้งข้อมูลแผนผังที่นั่งของผู้โดยสารมาวิเคราะห์ว่าอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ผู้โดยสารในแต่ละที่นั่งมีสภาพเป็นอย่างไร
     
      ทีมงานได้เปรียบเทียบอัตราการรอดชีวิต โดยแบ่งเครื่องบินออกเป็น 4 ส่วน โดยได้ข้อสรุปว่า "ยิ่งใกล้หางยิ่งปลอดภัยกว่า"
     
      อุบัติเหตุ 11 ใน 20 ครั้ง ผู้โดยสารที่นั่งแถวท้ายๆ ส่วนใหญ่ปลอดภัย หรือประสบเหตุเบากว่า โดยใน 7 กรณีของกลุ่มนี้ผู้โดยสารที่ปลอดภัยนั่งอยู่ในแถวท้ายๆ อีกทั้งได้ยกตัวอย่างอุบัติเหตุในปี 2525 กับสายการบินฟลอริดา (Air Florida) ที่เกิดขึ้นในวอชิงตันดีซี และปี 2515 กับอีสเทิร์น 727 (Eastern 727) ที่ท่าอากาศยานเคนนาดี ในนิวยอร์ก ซึ่งผู้โดยสารของทั้ง 2 กรณีที่รอดชีวิตล้วนนั่งอยู่บริเวณหางของเครื่องบิน
     
      อีกทั้งยังมีกรณี ดีซี-8 ของสายการบินยูไนเต็ด (United DC-8) เกิดน้ำมันหมดกลางอากาศใกล้กับพอร์ตแลนด์ ในปี 2519 มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ทั้งหมดล้วนนั่งอยู่ใน 4 แถวแรก
     
      นอกจากนี้ มีอุบัติเหตุเพียง 5 ครั้งเท่านั้นที่ผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าประสบเหตุเบากว่า ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 5 เกิดระหว่างปี 2531-2535 ส่วนใหญ่เพราะเหตุเกิดที่บริเวณปีก อย่างอุบัติเหตุในปี 2532 ที่ไอโอวากับสายการบินยูไนเต็ด มีผู้โดยสารรอดชีวิต 175 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ห้องผู้โดยสารส่วนหน้าปีกและส่วนหัว
     
      และอีก 3 ครั้งที่ทั้งผู้นั่งส่วนหัวและท้ายเครื่องมีโอกาสรอดชีวิตพอๆ กัน
     
      ส่วนผู้ที่นั่งบริเวณหัวลำปลอดภัยนั้น มีเพียง 1 กรณีเท่านั้น ในปี 2532 เครื่องโบอิ้ง 737-400 ของสายการบินยูเอสแอร์ (USAir) เกิดอุบัติเหตุบนทางวิ่ง (รันเวย์) มีผู้โดยสารเสียชีวิตเพียง 2 รายคือ ผู้ที่นั่งในแถวที่ 21 และ 25
     
      เมื่อคำณวนตามอัตราการรอดชีวิตแล้ว นิตยสารป็อปปูลาร์ มาแคนนิกส์ สรุปว่า ผู้ที่นั่งเคบินท้ายมีอัตราการรอดชีวิตถึง 69% หากเกิดอุบัติเหตุ และไล่ขึ้นมาในเคบินส่วนปีกโอกาสรอด 56% เสมอกับเคบินส่วนหน้าปีก
     
     
      อย่างไรก็ดี เคบินที่มีอัตราการรอดชีวิตต่ำสุดคือเคบินแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ โดยมีอัตราการรอดชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุเพียง 49%
     
      แม้จะเห็นว่า อัตราการรอดชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุบนเครื่องบินไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนของเครื่องก็ตาม เมื่อแน่ใจว่ารัดเข็มขัดแน่นแล้ว ก็ทำใจให้สบาย ตั้งใจฟังลูกเรือแนะนำกรณีฉุกเฉินต่างๆ และประคองสติให้มั่นขณะเกิดเหตุ

เวลานั่งเครื่องบิน ตรงไหน ปลอดภัยที่สุด

ภาพจากป็อบปูลา มาแคนนิกส์ที่แบ่งเครื่องบินออกเป็น 4 ส่วน เมื่อวิเคราะห์ตามสถิติ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ สีเขียว-ห้องผู้โดยสารส่วนท้าย (Rear Cabin) คือส่วนที่มีโอกาสรอดถึง 69%, สีเหลืองประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือห้องผู้โดยสารที่บริเวณปีกและหน้าปีก มีอัตรการรอดชีวิต 56% และส่วนสีแดง-ห้องผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ (First/Bussiness Class) มีโอกาสรอดชีวิต 49% (และยิ่งอยู่แถวหน้าโอกาสรอดต่ำลงไปอีก)

ความรู้เรื่อง ชีส (Cheese)

เมื่อเอ่ยถึง ชีส (cheese) หลายท่านคงเข้าใจว่า ชีส ก็คือ เนย แต่ที่จริงแล้ว เนย คือไขมันล้วน ๆ ที่ถูกแยกออกมาจากไขมันนมสด สำหรับ ชีส คือผลิตภัณฑ์นม ซึ่งเปลี่ยนลักษณะไปเป็นของแข็งด้วยกระบวนการทางอุตสาหกรรมอาหาร โดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ลงไปในนม ให้นมจับกันเป็นลิ่ม และแยกตัวเป็นชั้นของแข็งเรียกว่า “เคิร์ด” ซึ่งในส่วนนี้จะถูกนำมาทำเป็น ชีส และในชั้นของเหลวเรียกว่า “เวย์” ที่มีคุณค่าทางอาหารจะถูกนำไปเลี้ยงสัตว์ บางครั้งยังสามารถนำไปทำยา หรือเครื่องบำรุงผิว

เมื่อทราบว่า ชีส คืออะไรแล้ว ต่อไปจะเล่าว่า ชีส มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไรบ้าง ชีส เป็นแหล่งอาหาร ที่ประกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส สังกะสี สูงไม่แพ้นม และวิตามินบี 12 ของอาหารประเภทมังสะวิรัตน์อีกด้วย ขณะที่มีน้ำตาลแลคโตสในอัตราที่ต่ำกว่านม ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาในการดื่มนม

สำหรับท่านที่มีปัญหาในการดื่มนม อธิบายเพิ่มเติมดังนี้ บางคนร่างกายขาด “น้ำย่อยแลคโตส” หรือมีน้อย ทำให้เมื่อดื่มนมแล้ว ร่างกายไม่สามารถที่จะย่อย “น้ำตาลแลคโตส” ที่มีอยู่ในนมได้ ส่งผลให้น้ำตาลแลคโตสที่เหลืออยู่ในร่างกายผ่านเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ และถูกย่อยโดยแบคทีเรีย จนเกิดการหมักหมมเป็นก๊าซ และกรด ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้อง

ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาในการดื่มนม จึงหันมารับประทาน ชีส แทนโดยไม่เกิดอาการแพ้เหมือนการดื่มนม

เนื่องจาก ชีส เป็นอาหารที่มีสารอาหารเข้มข้น ชีส จึงเหมาะสมสำหรับเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต ซึ่งต้องการอาหารที่มีพลังงาน และสารอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีน และแคลเซี่ยมซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเนื้อกระดูก ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และสามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ (การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแกร่งควรจะเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก จนเป็นผู้ใหญ่ และเข้าสู่วัยสูงอายุ) นอกจากนี้ ชีส ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน เพราะมีน้ำตาลในปริมาณต่ำ แต่มีโปรตีนในรูปของแคลเซี่ยมที่ช่วยเคลือบผิวฟัน และป้องกันฟันผุ

การรับประทาน ชีส อาจจะได้รับไขมันมากกว่าการดื่มนมเล็กน้อย แต่จะให้คุณประโยชน์มากกว่า การรับประทานเค้ก คุกกี้ หรือช็อกโกแลต ซึ่งให้แต่พลังงาน และไขมันเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ ชีส ให้สารอาหารที่มีประโยชน์มากมายเหมือนนม สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก อาจเลือกรับประทาน ชีส ที่ทำจากไขมันต่ำ เพราะจะมี คลอเรสเตอรอล ต่ำด้วยเช่นกัน ดังนั้น ชีส จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับบุคคลทุกเพศทุกวัย